28 กุมภาพันธ์ 2554

ตามรอยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช



ตามรอยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช


วันที่ 28 ธันวาคม เป็นวันที่ประชาชนชาวไทยจะร่วมกันรำลึกถึงพระมหากรุณาคุณของมหาราชพระองค์หนึ่งในแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นผู้กอบกู้เอกราชชาติไทยกลับคืนหลังจากการเสียกรุงครั้งที่สอง คือ "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช"

กษัตริย์องค์แรกและองค์เดียวในสมัยแผ่นดินกรุงธนบุรี ซึ่งวันที่ 28 ธ.ค. นั้นเป็นวันที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงธนบุรี

ร่องรอยประวัติศาสตร์ที่พระองค์ท่านทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังได้ "ตามรอย" ซึ่งหลายๆที่ก็ได้กลายเป็นสถนทีท่องเที่ยวที่สำคัญ


ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่วัดเชิงท่า หรือวัดโกษาวาส จ.อยุธยา


สถานที่แรกที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มในชีวิตของพระเจ้าตากก็คือ วัดเชิงท่า ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดแห่งนี้เป็นที่ที่พระเจ้าตากได้เริ่มเล่าเรียนเขียนอ่านจนเชี่ยวชาญภาษาต่างๆ นอกจากภาษาไทย เช่น ภาษาจีน ญวน และบาลี

และเมื่ออายุครบบวช ท่านก็ได้อุปสมบทที่วัดแห่งนี้ ก่อนจะลาสิกขาไปรับราชการที่เมืองตาก ที่วัดเชิงท่านี้ยังมีรูปเหมือนของพระอาจารย์ทองดี ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของพระเจ้าตาก ให้คนได้มาสักการะอีกด้วย


ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จ.ตาก


ที่จังหวัดตาก ท่านได้เป็นเจ้าเมืองปกครองอยู่ระยะหนึ่ง มีศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน ซึ่งเป็นศาลทรงจัตุรมุข ด้านหน้าศาลแขวนโคมจีนสีแดง ภายในประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริงเล็กน้อย

ในพระราชอิริยาบถที่กำลังประทับอยู่บนราชอาสน์ มีพระแสงดาบพาดอยู่ที่พระเพลา ด้านหลังศาลจะมีรูปปั้นช้างศึกม้าศึกอยู่เต็มบริเวณ ซึ่งได้มาจากผู้ที่นำมาถวายหลังจากขอพรจากศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินได้ตามประสงค์ รวมทั้งยังมีวัดดอยข่อยเขาแก้ว หรือวัดพระเจ้าตาก ซึ่งเป็นที่บรรจุอังคารของบิดามารดาของท่าน


พระบรมราชานุสาวรีย์ ณ สวนสาธารณทุ่งนาเชย อำเภอเมืองจันทบุรี


จังหวัดจันทบุรี นับว่าเป็นอีกเมืองที่มีความเกี่ยวข้องผูกพันกับพระเจ้าตากสินเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงมีสถานที่ที่เป็นที่ระลึกถึงท่านอยู่มากมาย เช่น ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในตัวเมืองจันทบุรี ศาลนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2463 เป็นศาลทรงสี่เหลี่ยมจตุรมุข

และต่อมาใน พ.ศ.2534 ชาวจันทบุรีก็ได้ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อสร้างศาลใหม่ขึ้นมาตั้งอยู่ข้างศาลเดิม เป็นรูปทรงเก้าเหลี่ยม หลังคาเป็นรูปพระมาลายอดแหลม ภายในมีพระบรมรูปของพระเจ้าตากประทับนั่งอยู่

พระบรมราชานุสาวรีย์ ณ สวนสาธารณทุ่งนาเชย อำเภอเมืองจันทบุรี มีรูปลักษณะพระบรมรูปทรงม้าพระที่นั่งออกศึก ทรงเครื่องกษัตริย์นักรบ รอบพระบรมรูปเป็นทหารคนสนิท 4 คน คอยอารักขาทั้งสี่ด้าน

และพระบรมราชานุสาวรีย์ อีกแห่งหนึ่งอยู่ที่ค่ายตากสิน เป็นพระบรมรูปอยู่ในท่าทรงพระแสงดาบบัญชาการรบ ส่วนในบริเวณปากแม่น้ำจันทบุรีก็เชื่อว่าเคยเป็นอู่ต่อเรือของพระเจ้าตาก เนื่องจากพบเรือสำเภาโบราณ และเรือขุดโบราณสมัยพระเจ้าตากอยู่บริเวณนั้น



พระราชวังเดิม


เมื่อพระเจ้าตากกู้เอกราชคืนจากข้าศึกได้แล้วนั้น ก็มาตั้งราชธานีใหม่อยู่ที่ "เมืองทณบุรีศรีมหาสมุทร" ที่แห่งนี้ท่านได้สร้างพระราชวังของท่านไว้ซึ่งอยู่บริเวณป้อมวิไชยประสิทธิ์และกองทัพเรือ

จนเมื่อถึงยุคแผ่นดินรัตนโกสินทร์ เมืองหลวงได้ย้ายมาอยู่ทางฝั่งพระนคร พระราชวังของพระเจ้าตากลดความสำคัญลง เป็นส่วนหนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์ และกลายเป็นที่ประทับของพระบรมวงศานุวงศ์ในราชวงศ์จักรี ภายหลังได้เรียกพระราชวังนี้ว่า "พระราชวังเดิม"

และในสมัยของรัชกาลที่ 5 ท่านได้พระราชทานพระราชวังเดิมแห่งนี้ให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรือ

ส่วนโบราณสถานที่ยังคงเหลืออยู่ก็คือ ท้องพระโรงสมัยกรุงธนบุรีที่พระเจ้าตากสินเสด็จออกว่าราชการ พระตำหนักเก๋งคู่ ซึ่งหลังในเป็นที่บรรทมของพระเจ้าตากสิน

รวมทั้งยังมีศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในท่าประทับยืน และทรงพระแสงดาบ ขนาดประมาณเท่าครึ่งของพระองค์จริงอีกด้วย


นอกจากพระราชวังเดิมแล้ว ก็ยังมี วัดอินทารามวรวิหาร ที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับพระเจ้าตาก ซึ่งท่านเคยเสด็จมาประทับแรมเพื่อทรงนั่งวิปัสสนากรรมฐาน ทรงศีลภาวนา จนเมื่อท่านเสด็จสวรรคตลง ก็ได้ประดิษฐานพระบรมศพ ถวายพระเพลิง และบรรจุพระบรมอัฐิไว้ที่วัดแห่งนี้

ปัจจุบันประชาชนนิยมไปสักการะพระบรมรูปจำลองของสมเด็จพระเจ้าตากสิน รวมทั้งแท่นบรรทม ซึ่งพระองค์เคยใช้เป็นที่ประทับ ภายในวัดมีพระเจดีย์คู่หนึ่งอยู่หน้าพระอุโบสถหลังเก่า

เชื่อกันว่าเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระเจ้าตากและพระอัครมเหสีไว้ ส่วนในพระอุโบสถหลังเก่า มีพระพุทธรูปปางตรัสรู้เป็นพระประธาน ภายในบรรจุพระบรมราชสรีรังคาร หรือ เถ้ากระดูกของพระองค์


พระบรมราชานุสาวรีย์ฯ วงเวียนใหญ่



นอกจากพระราชวังเดิมแล้ว ก็ยังมี วัดอินทารามวรวิหาร ที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับพระเจ้าตาก ซึ่งท่านเคยเสด็จมาประทับแรมเพื่อทรงนั่งวิปัสสนากรรมฐาน ทรงศีลภาวนา จนเมื่อท่านเสด็จสวรรคตลง ก็ได้ประดิษฐานพระบรมศพ ถวายพระเพลิง และบรรจุพระบรมอัฐิไว้ที่วัดแห่งนี้

ปัจจุบันประชาชนนิยมไปสักการะพระบรมรูปจำลองของสมเด็จพระเจ้าตากสิน รวมทั้งแท่นบรรทม ซึ่งพระองค์เคยใช้เป็นที่ประทับ ภายในวัดมีพระเจดีย์คู่หนึ่งอยู่หน้าพระอุโบสถหลังเก่า

เชื่อกันว่าเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระเจ้าตากและพระอัครมเหสีไว้ ส่วนในพระอุโบสถหลังเก่า มีพระพุทธรูปปางตรัสรู้เป็นพระประธาน ภายในบรรจุพระบรมราชสรีรังคาร หรือ เถ้ากระดูกของพระองค์


สถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในฝั่งธน ก็คืออนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินบริเวณวงเวียนใหญ่ ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์เฉลิมพระบรมราชกฤษฎาอภินิหารแห่งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช


ช่วงเวลา 15 ปี ที่พระเจ้าตากสินทรงเป็นพระมหากษัตริย์ในแผ่นดินธนุบรี เป็นช่วงเวลาที่พระองค์ทรงทำเพื่อประชาชนชาวไทยตลอดมา หากท่านทรงมีญาณรับรู้ก็คงจะทราบว่า ประชาชนชาวไทย ยังคงระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอยู่เสมอ...ตลอดมา

ไม่มีความคิดเห็น:

คลังบทความของบล็อก